วันพุธที่ 16 มีนาคม พ.ศ. 2559

ผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน

ผลกระทบจากสภาวะโลกร้อน

.
งานวิจัยเนื้อหากว่า 1,000 หน้าจากนักวิทยาศาสตร์กว่า 700 คน
.
ว่ากรณีภาวะโลกร้อนจะแตกต่างกันในแต่ละประเทศแต่ละส่วนของโลก
.


.
1. ผลกระทบด้านนิเวศวิทยา
.

แถบขั้วโลกได้รับผลกระทบมากสุด
.
และก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงมากมาย

โดยเฉพาะอย่างยิ่งภูเขาน้ำแข็ง ก้อนน้ำแข็งจะละลายอย่างรวดเร็ว
.
ทำให้ระดับน้ำทะเลทางขั้วโลกเพิ่มขึ้น
.
และไหลลงสู่ทั่วโลกทำให้เกิดน้ำท่วมได้ทุก ทวีป
นอกจากนี้จะพลอยทำให้สัตว์ทางทะเลเสียชีวิตเพราะระบบนิเวศเปลี่ยนแปลง
.
.
.
ส่วนทวีปยุโรป
.
ยุโรปใต้ภูมิประเทศจะกลายเป็นพื้นที่ลาดเอียงเกิดความแห้งแล้ง
.
ในหลายพื้นที่ปัญหาอุทกภัยจะเพิ่มขึ้น
.
เนื่องจากธารน้ำแข็งบนบริเวณยอดเขาสูง
.
ที่ปกคลุมด้วยหิมะจะละลายจนหมด
 
 
.

.

ขณะที่เอเชีย
.
อุณหภูมิจะสูงขึ้นเกิดฤดูกาลที่แห้งแล้ง
มีน้ำท่วม ผลิตผลทางอาหารลดลง
.
ระดับน้ำทะเลสูงขึ้นสภาวะอากาศ แปรปรวนอาจทำให้เกิดพายุต่าง ๆ
มากมายเข้าไปทำลายบ้านเรือนที่อยู่อาศัยของประชาชน
.
ซึ่งปัจจุบันก็เห็นผลกระทบได้ชัดไม่ว่าจะเป็นใต้ฝุ่นกก

.
.

แต่แถบทวีปอเมริกาเหนือ
.
อุตสาหกรรมการผลิตอาหารจะได้รับผลประโยชน์
.
เนื่องจากอากาศที่อุ่นขึ้น พร้อม ๆกับทุ่งหญ้าใหญ่ของแคนาดา
.
และทุ่งราบใหญ่สหรัฐอเมริกาจะล้มตาย
.
เพราะความแปรปรวนของอากาศส่งผลต่อสัตว์
.

.

นักวิจัยได้มีการคาดประมาณอุณหภูมิผิวโลกในอีก 100 ปีข้างหน้า
.
หรือประมาณปี 2643
.
ว่า อุณหภูมิจะสูงขึ้นจากปัจจุบันราว 4.5 องศาเซลเซียส
.
เนื่องจากคาดการณ์ว่า จะมีการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์
.
ถึงร้อยละ 63 และก๊าซมีเทนร้อยละ 27
.
ของก๊าซเรือนกระจก

.
.


สำหรับประเทศไทยมีอุณหภูมิสูงขึ้น
.
ประมาณ 1 องศาเซลเซียสในช่วง 40 ปี
.
อย่างไรก็ตาม หากอุณหภูมิเพิ่มสูงขึ้น 2- 4 องศาเซลเซียส
.
จะทำให้พายุไต้ฝุ่นเปลี่ยนทิศทาง เกิดความรุนแรง
.
และมีจำนวนเพิ่มขึ้นร้อยละ 10-20 ในอนาคต
.
นอกจากนี้ ฤดูร้อนจะขยายเวลายาวนานขึ้น
.
ในขณะที่ฤดูหนาวจะสั้นลง

.
.
.
.
2. ผลกระทบด้านเศรษฐกิจ
.
รัฐที่เป็นเกาะเล็ก ๆ ของทวีปอเมริกาจะได้รับผล
.
จากระดับน้ำทะเลที่สูงขึ้นกัดกร่อนชายฝั่ง
.
จะสร้างความเสียหายแก่ระบบนิเวศ แนวปะการังจะถูกทำลาย
.
ปลาทะเลประสบปัญหา เนื่องจากระบบนิเวศที่แปรเปลี่ยนไป
.
ธุรกิจท่องเที่ยวทางทะเลที่สำคัญจะสูญเสียรายได้มหาศาล
.
 
.
.
 
.
นอกจากนี้ ในเอเชียยังมีโอกาสร้อยละ 66-90
.
ที่อาจเกิดฝนกระหน่ำและมรสุมอย่างรุนแรง
.
รวมถึงเกิดความแห้งแล้งในฤดูร้อนที่ยาวนาน
.
ทั้งนี้ ในปี 2532-2545 ประเทศไทยเกิดความเสียหาย
.
จากอุทกภัย พายุ และภัยแล้ง
.
คิดเป็นมูลค่าเสียหายทางเศรษฐกิจมากกว่า 70,000 ล้านบาท

.
.
รายงาน " Global Deserts Outlook"
.
ของโครงการสิ่งแวดล้อมแห่งสหประชาชาติ
.
เนื่องในวันสิ่งแวดล้อมโลก 5 มิถุนายน ชี้ว่า
.
ภายใน 50 ปีข้างหน้า ระบบนิเวศวิทยาทะเลทราย จะเปลี่ยนแปลงไป
.
ทั้งด้านชีววิทยา เศรษฐกิจและวัฒนธรรม
.

.
ปัจจุบันพืชและสัตว์ทะเลทราย คือแหล่งทรัพยากรมีคุณค่า
.
สำหรับผลิตยาและธัญญาหารใหม่ๆที่ทำให้ไม่ต้องสิ้นเปลืองน้ำ
.
และยังมีช่องทางเศรษฐกิจใหม่ๆ ที่เป็นมิตรกับธรรมชาติ
.
เช่น การทำฟาร์มกุ้งและบ่อปลาในทะเลทรายรัฐอาริโซนา
.
และทะเลทรายเน เจฟในอิสราเอล

.

.
อย่างไรก็ตาม ทะเลทรายที่มีอยู่ 12 แห่งทั่วโลก
.
กำลังเผชิญปัญหาใหญ่ ไม่ใช่เรื่องการขยายตัว
.
แต่เป็นความแห้งแล้งเนื่องจากโลกร้อน
.
ธารน้ำแข็งซึ่งส่งน้ำมาหล่อเลี้ยงทะเลทรายในอเมริกาใต้
.
กำลังละลาย น้ำใต้ดินเค็มขึ้น
.
รวมทั้งผลกระทบที่เกิดจากน้ำมือมนุษย์
.
ซึ่งหากไม่มีการลงมือป้องกันอย่างทันท่วงที
.
ระบบนิเวศวิทยาและสัตว์ป่าในทะเลทรายจะสูญหายไปภายใน 50 ปีข้างหน้า

.

.
ในอนาคตประชากร 500 ล้านคน
.
ที่อาศัยอยู่ในเขตทะเลทรายทั่วโลกจะอยู่ไม่ได้อีกต่อไป
.
เพราะอุณหภูมิสูงขึ้นและน้ำถูกใช้จนหมดหรือเค็มจนดื่มไม่ได้
.
.
.

3. ผลกระทบด้านสุขภาพ

.
ภาวะโลกร้อนไม่เพียง ทำให้ระบบนิเวศเปลี่ยนแปลงไป
.
แต่มีสิ่งซ่อนเร้นที่แอบแฝงมาพร้อมปรากฏการณ์นี้ด้วย
.
ว่าโลกร้อนขึ้นจะสร้างสภาวะที่พอเหมาะพอควร
.
ให้เชื้อโรคเจริญเติบโตอย่างรวดเร็ว
.
.

เดวิท พิเมนเทล นักนิเวศวิทยาแห่งมหาวิทยาลัยคอร์ แนลในอเมริกา
.
ระบุว่าโลกร้อนขึ้นจะก่อให้เกิด
.
ภาพแวดล้อมที่เหมาะสมแก่การฟักตัวของเชื้อโรคและศัตรูพืช
.
ที่เป็นอาหารของมนุษย์บางชนิด
.
โรคที่ฟักตัวได้ดีในสภาพร้อนชื้นของโลก
.
จะสามารถเพิ่มขึ้นมากในอีก 20 ปีข้างหน้า
.
ทั้งจะมีการติดเชื้อเพิ่มมากขึ้นในโรคมาลาเรีย ไข้ส่า อหิวาตกโรค และอาหารเป็นพิษ
.
นักวิทยาศาสตร์ในที่ประชุมองค์การอนามัยโลก
.
และ London School of Hygiene and Tropical Medicine
.
วิทยาลัยศึกษาด้านสุขอนามัยและเวชศาสตร์เขตร้อนของอังกฤษ
.
แถลงว่า ในแต่ละปีประชาชนราว 160,000 คนเสียชีวิต
.
เพราะได้รับผลกระทบจากภาวะโลกร้อน
.
ตั้งแต่โรคมาลาเรีย ไปจนถึงการขาดแคลนสุขอนามัยที่ดี
.
และตัวเลขผู้เสียชีวิตนี้อาจเพิ่มขึ้นเกือบสองเท่าตัวในอีก 17 ปีข้างหน้า
.
แถลงการณ์ของคณะแพทย์ระดับโลกระบุว่า
.
เด็กในประเทศกำลังพัฒนาจัดอยู่ในกลุ่มเสี่ยงมากที่สุด
.
เช่นในประเทศแถบแอฟริกา ละตินอเมริกา
.
และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่จะต้องเผชิญกับการแพร่ขยาย
.
ของการขาดแคลนสุขอนามัยโรคท้องร่วง
.
และโรคมาเลเรีย ท่ามกลางอุณหภูมิโลกร้อนขึ้น น้ำท่วม และภัยแล้ง
.
.
.
การป้องกัน

ได้มีผู้แนะนำวิธีการช่วยป้องกันสภาวะโลกร้อนไว้ดังนี้
.
.

1. ลดระยะทางที่ใช้สำหรับการขน ส่งอาหาร
.
เนื่องจากมลพิษจากการขนส่งนั้น

เป็นตัวการสำคัญมากที่สุดในการเพิ่มปริมาณ
.
ก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ในบรรยากาศ

.
ให้ เราพยายามบริโภคอาหารที่ผลิตและปลูก
.
ในท้องถิ่น จะช่วยลดพลังงานที่ใช้สำหรับ การขนส่งลงได้

.

2. ปิดเครื่องปรับอากาศในโรงแรม
.
ที่เราได้เข้าพักพร้อมทั้งอย่าให้พนักงานนำ

.
ผ้าขนหนูที่ยังไม่สกปรกมากไปซัก
.
โดยพึง ระลึกว่าเราไม่ได้ช่วยให้โรงแรมประหยัดค่าไฟฟ้า
.
แต่เรากำลังช่วยโลกที่เราอาศัยอยู่

.

3. ลดระดับการใช้งานเครื่องใช้ ไฟฟ้าลงแม้เพียงน้อยนิด
.
เช่น เพิ่มความร้อนของเครื่องปรับอากาศในสำนักงาน
.
หรือที่พัก อาศัยลงสักหนึ่งองศา หรือ ปิดไฟขณะไม่ใช้
.
.งานปิดฝาหม้อที่มีอาหารร้อนอยู่
.
หรือลด จำนวนชั่วโมงการดูโทรทัศน์หรือฟังวิทยุลง
.
อาจลดค่าใช้จ่ายของเราไม่มากนักแต่จะส่ง ผลมหาศาลต่อโลก

.

4. นำกระดาษหรือภาชนะบรรจุอื่นๆ กลับไปใช้ใหม่
.
พยายามซื้อสิ่งของที่มีอายุการใช้งานนานๆ
.
จะช่วยลดการใช้พลังงานของโลกอย่างมากมาย



5. รักษาป่าไม้ให้ได้มากที่สุด
.
และลดหรืองดการจัดซื้อสิ่งของหรือเฟอร์นิเจอร์ต่างๆ
.
ที่ทำจากไม้ที่ตัดเอามาจากป่า
.
เพื่อปล่อยให้ต้นไม้และป่าไม้เหล่านี้ได้ทำหน้าที่การเป็นปอดของโลกสืบไป

.

6. ลดการใช้น้ำมันจากการขับขี่ยวดยานพาหนะ
.
โดยปรับเปลี่ยนนิสัยการขับรถ

.
เช่น ลดความเร็วในการขับรถลง
.
ตรวจสอบสภาพลมในล้อรถให้เหมาะสม
.
และค่อยๆ เหยียบคันเร่งรถยนต์เมื่อต้องการเร่งความเร็ว และ

.

7. ทดลองเดินให้มากที่สุด






 
 
 
---> อ้างอิง





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น